ลำดับของ เบลเยียมโปรลีก เป็นสิ่งที่แฟนบอลทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะระบบการแข่งขันของลีกนี้มีความซับซ้อนและน่าสนใจมากกว่าหลายลีกในยุโรป ไม่ได้วัดเพียงแค่ผลการแข่งขันในฤดูกาลปกติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแบ่งกลุ่มเพลย์ออฟที่มีผลต่อการคว้าแชมป์ การไปเล่นฟุตบอลยุโรป และการตกชั้น ทำให้ทุกแมตช์ในลีกนี้มีความสำคัญตั้งแต่นัดแรกจนถึงนัดสุดท้าย
ภาพรวมของ เบลเยียมโปรลีก
เบลเยียมโปรลีก หรือ Jupiler Pro League เป็นลีกสูงสุดของประเทศเบลเยียมที่มีทีมเข้าแข่งขันทั้งหมด 16 สโมสรในฤดูกาลล่าสุด โดยแต่ละทีมจะพบกันทั้งเหย้าและเยือนรวม 30 นัด ก่อนที่จะแบ่งกลุ่มเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ ซึ่งระบบนี้ทำให้ ลำดับของ เบลเยียมโปรลีก ไม่ได้ตัดสินแชมป์จากคะแนนรวมตลอดฤดูกาลเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องแข่งต่อในรอบพิเศษ ทำให้ทีมต้องพยายามรักษาผลงานให้ดีตลอดทั้งปีเพื่อให้ติดในกลุ่มที่ได้เข้าสู่รอบเพลย์ออฟชิงแชมป์
ระบบลีกปกติ
ในรอบปกติของเบลเยียมโปรลีก ทีมจะลงแข่งขันแบบพบกันหมดทั้งเหย้าและเยือน โดยทีมที่ชนะจะได้ 3 คะแนน เสมอได้ 1 คะแนน และแพ้ไม่ได้คะแนน ซึ่งหลังจบ 30 นัด ทีมที่มีคะแนนสูงสุด 6 อันดับแรกจะได้เข้าสู่กลุ่ม Championship Playoff เพื่อลุ้นแชมป์ลีก ส่วนอันดับ 7–12 จะเข้าไปในกลุ่ม Playoff 2 เพื่อลุ้นโควตาไปเล่นยูโรป้าลีก ขณะที่อันดับท้ายตารางจะต้องลุ้นไม่ให้ตกไปอยู่ในโซนตกชั้น
ระบบเพลย์ออฟ
เมื่อจบรอบปกติแล้ว ลำดับของ เบลเยียมโปรลีก จะถูกนำมาหั่นคะแนนครึ่งหนึ่งก่อนเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ โดยกลุ่มบนจะเล่นกันเพื่อหาทีมแชมป์และโควตาฟุตบอลยุโรป ส่วนกลุ่มกลางจะชิงตั๋วยูโรป้าลีกเพิ่มเติม และทีมท้ายตารางจะต้องแข่งเพื่อเอาตัวรอดจากการตกชั้น ระบบนี้สร้างความตื่นเต้นและเปิดโอกาสให้ทีมที่เริ่มต้นฤดูกาลไม่ดีแต่จบแรงสามารถมีลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้เช่นกัน
การเลื่อนชั้นและตกชั้น
ในเบลเยียมโปรลีก ทีมอันดับสุดท้ายของตารางหลังจบฤดูกาลจะตกชั้นไปยังดิวิชันล่างอัตโนมัติ ส่วนทีมอันดับรองบ๊วยจะต้องเล่นเพลย์ออฟกับทีมจากลีกรองเพื่อชิงสิทธิ์อยู่รอดในลีกสูงสุดต่อไป ระบบนี้ทำให้ทุกแต้มในเกมท้ายฤดูกาลมีความหมายมาก เพราะไม่เพียงแค่ลุ้นแชมป์หรือไปบอลยุโรปเท่านั้น แต่ยังต้องสู้เพื่อความอยู่รอด
การเปลี่ยนแปลงล่าสุด
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลำดับของ เบลเยียมโปรลีก ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อให้ลีกมีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น การลดจำนวนทีมจาก 18 เหลือ 16 ทีม การปรับรูปแบบเพลย์ออฟ และการจัดตารางให้กระชับขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ต้องมีการบริหารจัดการการแข่งขันใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุปข้อดีข้อเสียของระบบลำดับ
ระบบ ลำดับของ เบลเยียมโปรลีก มีข้อดีตรงที่เพิ่มความตื่นเต้นในการแข่งขัน ทั้งในด้านการลุ้นแชมป์ การไปบอลยุโรป และการตกชั้น ทำให้ทุกแมตช์มีความหมายตลอดฤดูกาล แต่ข้อเสียคือความซับซ้อนของระบบเพลย์ออฟที่อาจทำให้แฟนบอลทั่วไปเข้าใจยาก โดยเฉพาะการหั่นคะแนนครึ่งหนึ่งก่อนเริ่มรอบเพลย์ออฟ ซึ่งบางทีมมองว่าไม่ยุติธรรมหากพวกเขาทำผลงานได้ดีในรอบปกติ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับลำดับของเบลเยียมโปรลีก
หลายคนสงสัยว่า “ทำไมต้องมีเพลย์ออฟ?” คำตอบคือเพื่อเพิ่มความยุติธรรมและโอกาสให้ทุกทีมได้ลุ้นสิ่งต่างๆ จนถึงนัดสุดท้าย อีกคำถามคือ “ถ้าทีมคะแนนเยอะสุดในรอบปกติไม่ชนะเพลย์ออฟจะได้แชมป์ไหม?” คำตอบคือไม่ เพราะแชมป์ลีกจะถูกตัดสินในรอบ Championship Playoff เท่านั้น ไม่ใช่แค่คะแนนรอบปกติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากลีกอื่นๆ อย่างพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือบุนเดสลีกา เยอรมัน ลำดับของ เบลเยียมโปรลีก
บทสรุป
ลำดับของ เบลเยียมโปรลีก ไม่ใช่แค่เรื่องของคะแนนสะสมในฤดูกาล แต่คือระบบที่มีชั้นเชิง มีความตื่นเต้น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการแบ่งรอบแข่งขันแบบพิเศษที่ช่วยให้ทุกทีมมีแรงจูงใจในการเล่นตลอดฤดูกาล ทั้งการลุ้นแชมป์ การไปฟุตบอลยุโรป และการหนีตกชั้น แม้จะดูซับซ้อน แต่ก็เป็นระบบที่แฟนบอลจำนวนมากมองว่าให้ความยุติธรรมและเพิ่มความมันส์ให้กับเกมฟุตบอลในประเทศเบลเยียมอย่างแท้จริง